การดูภาพยนตร์เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมคลายเครียดที่จะช่วยให้ผ่อนคลายจากการทำงานอันเหน็ดเหนื่อย และบางทีภาพยนตร์อาจจะเป็นการหาแรงบันดาลใจง่ายๆ ที่จะช่วยให้เติมไฟให้คุณกลับไปใช้ชีวิตอย่างมีความหมายได้ด้วย วันนี้แอลจึงได้รวบรวม 10 ภาพยนตร์น้ำดี ที่จะช่วยปลุกพลังและสร้างแรงบันดาลใจให้กับสาวๆ พร้อมกับได้ความสนุกเพลิดเพลินกลับไปด้วย เรามาชมกันเลยว่าจะมีเรื่องอะไรกันบ้าง

Bombshell (2020)

ภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงของผู้ประกาศข่าวหญิงในสถานีโทรทัศน์ Fox News นำแสดงโดยดาราตัวแม่อย่าง Charlize Theron, Nicole Kidman และ Margot Robbie ซึ่งตัวละครของพวกเธอนั้นพบเจอเหตุการณ์ล่วงละเมิดทางเพศจากผู้บริหารในองค์กร รวมไปถึง Donald Trump ด้วยซ้ำ แต่พวกเธอเลือกกล้าที่จะออกมาเปิดเผยว่าตนเองถูกกระทำจากอำนาจเบื้องบน ทั้งยังยืนหยัดและต่อสู้กับระบบชายเป็นใหญ่ที่กดผู้หญิงไว้ได้อย่างทรงพลัง บอกเลยว่าตลอด 2 ชั่วโมงของภาพยนตร์เรื่องนี้จะเต็มไปด้วยบทสนทนาที่เชือดเฉือนจนไม่อาจละสายตาไปได้เลยล่ะ

Joy (2015)

เรื่องราวของ Joy Mangano หญิงสาวนักประดิษฐ์อุปกรณ์ที่ช่วยทำให้งานบ้านเป็นเรื่องกล้วยๆ และยังเป็นนักธุรกิจผู้ประสบความสำเร็จ แต่กว่าเธอจะมาถึงจุดนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะครอบครัวคอยสร้างปัญหาให้กับเธอตลอด เธอต้องทำงานหนักทั้งเพื่อตามความฝันของตนเองและต้องคอยดูแลครอบครัวด้วย แต่ท้ายที่สุดแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้จะแสดงให้ผู้ชมเห็นว่าความพยายามนั้นมีความหมาย ถึงแม้ว่าระหว่างทางจะมีอุปสรรคและปัญหา แต่ด้วยหนึ่งสมองกับอีกสองมือจะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จได้

The Devil Wears Prada (2006)

หากจะพูดถึงภาพยนตร์ที่ปลุกไฟแรงในการทำงาน อย่างไรเสียก็ต้องหยิบยกเรื่องนี้มาพูดถึง กับเรื่อง ‘The Devil Wears Prada’ ที่ได้นักแสดงมือฉมังอย่าง Meryl Streep มารับบทบาทเจ้าแม่แห่งวงการนิตยสารแฟชั่น พร้อมกับ Anne Hathaway ในบทนักศึกษาจบใหม่ที่กำลังหางานแล้วมาลงเอยในวงการแฟชั่นโดยที่เธอไม่เข้าใจเรื่องของวงการนี้เลยแม้แต่นิดเดียว แต่ท้ายที่สุดแล้วเราจะได้เห็นพัฒนาการของตัวละครที่สามารถเติบโตในเส้นทางชีวิตของเธอ ซึ่งมันจะช่วยสร้างพลังให้กับสาวๆ ได้อย่างแน่นอน

The Intern (2015)

คล้ายกับจะเป็นภาคต่อของ The Devil Wears Prada เพราะเรื่องนี้ Anne Hathaway ก็มารับบทนำในแวดวงแฟชั่นอีกแล้ว แต่คราวนี้เธอมาในฐานะบอสสาวเจ้าของบริษัทสตาร์ตอัพเกี่ยวกับธุรกิจเสื้อผ้าแฟชั่นออนไลน์ผู้ประสบความสำเร็จแต่ชีวิตนอกจากการทำงานของเธอนั้นค่อนข้างวุ่นวายไม่น้อย จนวันหนึ่งบริษัทของเธอได้เปิดรับสมัครเด็กฝึกงานวัยเกษียณ จึงก่อให้เกิดมิตรภาพต่างวัยระหว่างเจ้านายกับเด็กฝึกงาน และความสัมพันธ์นี้เองก็ช่วยให้เธอก้าวข้ามผ่านอุปสรรคไปได้ในที่สุด สาวแกร่งวัยทำงานตอนต้นที่กำลังประสบปัญหาในการบาลานซ์ชีวิตการทำงานกับความรัก หากได้ดูภาพยนตร์ฟีลกู๊ดเรื่องนี้น่าจะประทับใจและเติมไฟในการใช้ชีวิตไม่น้อยเลยทีเดียว

IRIS (2015)

ภาพยนตร์ชีวประวัติที่สาวสายแฟชั่นควรชม เพราะนี่คือเรื่องของ Iris Apfel แฟชั่นไอคอนในตำนานวัย 99 ปี ผู้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าแฟชั่นไม่ใช่เรื่องของวัย จะอายุเท่าไรก็แต่งตัวได้ตามใจอยาก เธอเป็นผู้ทรงอิทธิพลในแวดวงแฟชั่นของนิวยอร์ก เพราะคุณยาย Iris เธอลุยทำมาทุกอย่างตั้งแต่งานออกแบบ งานสะสมเครื่องประดับ ไปจนถึงงานถ่ายแบบ แม้เธอวัยใกล้แตะหลักร้อยแต่เธอก็ใช้ชีวิตได้อย่างคุ้มค่าและสนุกสนาน เธอมักจะชอบแต่งตัวด้วยสีสันที่ฉูดฉาดพร้อมกับเครื่องประดับหลากหลายสไตล์ บนใบหน้าเธอก็จะมีแว่นตากลมโตขนาดใหญ่ และเธอไม่เคยมีกรอบหรือกฎใดมาจำกัดการใช้ชีวิตของเธอทั้งสิ้น หากใครต้องการข้อคิดดีๆ ในการใช้ชีวิตพร้อมกับดูแฟชั่นสุดไอคอนิก ก็ไม่ควรพลาดเรื่องนี้โดยประการทั้งปวง

The Blind Side (2009)

ภาพยนตร์ชีวประวัติของ Michael Oher นักกีฬาอเมริกันฟุตบอลผิวสีที่มีวัยเด็กไม่สวยงามนัก เพราะเขาเติบโตมาจากสลัมและรายล้อมไปด้วยยาเสพติด แต่แล้ววันหนึ่งเมื่อเขาได้ไปพบกับผู้หญิงที่เป็นมหาเศรษฐี Leigh Anne Tuohy (นำแสดงโดย Sandra Bullock) ชีวิตของผู้หญิงคนนี้ก็ได้เปลี่ยนไป เพราะ Michael ได้มาเติมเต็มชีวิตของเธอ โดยการสอนให้เธอได้รู้จักโลกที่เธอเรียนรู้ที่จะช่วยเหลือและพัฒนาศักยภาพให้กับเด็กคนหนึ่งที่มีจิตใจบริสุทธิ์แม้เขาจะเติบโตมาในสิ่งแวดล้อมที่ยากลำบากก็ตาม ซึ่ง Sandra ก็แสดงบทบาทแม่ได้อย่างยอดเยี่ยมและกินใจ จนบทบาทนี้ส่งให้เธอได้ออสการ์ไปครองในปี 2010 อีกด้วย

Hidden Figures (2016)

อีกหนึ่งภาพยนตร์ชีวประวัติที่ได้มีโอกาสเข้าชิงรางวัลทั้งจากเวที Oscars และ Golden Globes นำแสดงโดย Taraji P. Henson, Octavia Spencer และ Janelle Monáe ภาพยนตร์เป็นเรื่องราวของกลุ่มเพื่อนสาวสามคนที่ทำงานอยู่ในองค์การ NASA ซึ่งพวกเธอต้องทำงานอย่างหนักมากกว่าคนอื่นๆ เพราะต้องต่อสู้กับสังคมอเมริกันในยุคที่มีการเหยียดผิวและแบ่งชนชั้น ไม่ว่าจะเรื่องการไต่เต้าในหน้าที่การงาน การทำให้เพื่อนร่วมงานยอมรับในความสามารถ การพยายามเข้าถึงการศึกษาในโรงเรียนของคนขาว หรือแม้กระทั่งเรื่องห้องน้ำก็ยังแบ่งแยกไม่ให้คนผิวสีใช้ร่วมกับคนผิวขาว ถึงแม้ว่าฟังดูแล้วอาจจะดราม่า แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้กลับทำให้เรารู้สึกฟีลกู๊ดได้อย่างเหลือเชื่อ เพราะพวกเธอเป็นสาวแกร่งและมีสีสันในการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก ในบางฉากอาจจะทำให้ผู้ชมหลุดหัวเราะกันเลยทีเดียว แต่ฉากดราม่าก็บอกได้เลยว่าเหล่านักแสดงก็ระเบิดอารมณ์ออกมาได้อย่างดุเดือดกันจริงๆ

The Help (2011)

เรื่องราวกลุ่มสาวใช้ผิวสีที่พยายามต่อสู้เพื่อให้มีชีวิตที่ดีขึ้นจากกลุ่มเจ้านายผิวขาวที่กดขี่พวกเธอในยุคของการต่อสู้เพื่อสิทธิความเท่าเทียมกันของคนผิวสีในอเมริกา ภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้เราจะได้เห็นกลุ่มผู้หญิงที่แข็งแกร่งและกล้าที่จะยืนหยัดเพื่อตนเองและครอบครัวของพวกเธอ นำทีมแสดงโดย Viola Davis ,Octavia Spencer และ Emma Stone ในบทบาทหญิงสาวผิวขาวหัวขบถที่ชื่อว่า Skeeter คอยเป็นผู้สนับสนุนพวกเธอผ่านการเขียนเรื่องราวของเหล่าสาวใช้แล้วตีพิมพ์หนังสือไปสู่สาธารณะ จนทำให้เกิดแรงกระเพื่อมในสังคมว่าปัญหานี้ควรจะถูกแก้เสียที

On The Basis of Sex (2018)

ภาพยนตร์ชีวประวัติผู้พิพากษาของศาลสูงสุดแห่งสหรัฐอเมริกา Ruth Bader Ginsburg ผู้หญิงที่สร้างแรงสั่นสะเทือนให้เกิดแรงกระเพื่อมมหาศาลในระบบกฎหมายและขบวนการเคลื่อนไหวเรียกร้องความเท่าเทียมทางเพศ โดยภาพยนตร์นั้นเริ่มเล่าตั้งแต่เมื่อเธอตัดสินใจที่จะเรียนในโรงเรียนกฎหมายที่เต็มไปด้วยผู้ชายในปี 1956 และเธอต้องพบกับอุปสรรคปัญหามากมายเพียงเพราะเธอไม่ใช่ผู้ชาย แม้เธอจะเรียนเก่งและมีความสามารถแต่ก็ไม่มีใครรับเข้าทำงาน (คิดกลับกันว่าเธอเป็นผู้ชาย คนก็คงรับเธอเข้าบริษัททันที) และตลอดทั้งเรื่องเราก็จะเห็นได้ว่าเธอไม่ได้ทำแค่เพียงต่อสู้เพื่อเพศหญิงเท่านั้นแต่เธอก็ต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมของคนทุกเพศด้วย นอกจากนี้เมื่อภาพยนตร์ออกฉายแล้วก็ได้จัดแคมเปญให้ผู้ชมที่เคยรู้สึกว่าตนเองถูกปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียมให้มาร่วมแชร์ประสบการณ์ผ่านแท็ก #MeToo อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่องที่ทรงคุณค่าและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนอย่างแท้จริง

Self Made (2020)

ปิดท้ายกันด้วยมินิซีรี่ส์จำนวน 4 ตอนจาก Netflix ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ภาพยนตร์ แต่ซีรี่ส์ Self Made ที่ทำมาจากเรื่องจริงของ Madame C.J Walker ผู้หญิงผิวสีที่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของอเมริกาว่าเธอเป็นเศรษฐินีคนแรกที่ร่ำรวยจากน้ำพักน้ำแรงของเธอเองแม้เธอจะอยู่ในยุคที่มีการกีดกันและแบ่งแยกสีผิวในอเมริกา ก็จะปลุกไฟในชีวิตของคุณขึ้นมาได้ เพราะไม่ว่าเธอจะเจออุปสรรคอะไร แต่เธอก็ยังเป็นแม่ผู้แข็งแกร่งที่พร้อมต่อสู้กับปัญหาที่เกิดขึ้นจากทั้งคนผิวขาว ทั้งคนในครอบครัว และปัญหาจากโลกธุรกิจที่พร้อมเข้ามาเสมอหากเธอคิดที่จะยอมแพ้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ควรค่าแก่การรับชม เก็บใส่ Watchlist กันไว้ได้เลย Photo Cover Courtesy: IMDB
Story: ภัทรณกัญ อนันเต่า