หากจะบอกว่าเธอคือสาวน้อยมหัศจรรย์คนล่าสุดของเมืองไทยก็คงไม่เกินไปนัก กับการเปิดตัวพร้อมเพลงไทยที่ให้บรรยากาศอินเตอร์แบบสุดคูลอย่าง How To Love ผลงานตัดริบบิ้นค่ายเพลงน้องใหม่ 411 Music ของกึ้ง-เฉลิมชัย มหากิจศิริ ซึ่งมียอดวิวทะลุ 23 ล้านวิวไปแล้ว เมื่อเราบอกแอลลี่ว่าเธอน่าจะเป็นหนึ่งในเป็นคัฟเวอร์เกิร์ล ซึ่งมีอายุน้อยที่สุดของแอล เธอถึงกับร้องว้าวด้วยความตื่นเต้นแบบเก็บอาการไม่อยู่!
เมื่อถามถึงความรู้สึกของการได้มาเป็นคัฟเวอร์เกิร์ลของเรา คำว่า So cool!!!! กับเสียงสูงชวนตื่นเต้นคือคำจำกัดความที่เธออธิบาย “หนูจินตนาการถึงตัวเองบนปกไม่ออกเลยค่ะ รู้แต่ว่าตื่นเต้นที่จะได้เห็นมาก เตรียมตัวมาตั้งแต่เมื่อวาน ขนาดหนูขอกินโรตีแม่ยังไม่ให้กินเลยค่ะ แม่บอกว่า No! You’ve got a shoot tomorrow! ตอนอยู่เกาหลีต้องเข้มงวดมากค่ะ ก่อนถ่ายเอ็มวีหนูต้องลดน้ำหนักอีก 2 กิโลฯ ทั้งที่จริงๆแล้วมันก็ยังอยู่ในมาตรฐาน ช่วงนั้นก็ต้องอาศัยกินพวก energy bar เอาค่ะ จะได้มีแรงทำงานต่อ
แอลลี่บอกกับแอลว่าหลังกลับมาเมืองไทย เธอมีโอกาสได้ถ่ายแบบอีกหลายครั้ง และช่วงแรกเธอก็มีปัญหาเรื่องการหามุมของตัวเองเหมือนกับที่หลายคนเป็น “ช่วงแรกๆหนูมีปัญหาเรื่องไม่รู้มุมหน้าตัวเองหนักมากค่ะ เพราะไม่รู้ว่ามุมไหนจะดี เลยหันแค่ข้างเดียวดีกว่า แต่พอได้ทำงานบ่อยขึ้นก็เห็นแล้วว่าตัวจริงกับในกล้องมันจะออกมาไม่เหมือนกัน ก็เลยพยายามสังเกตจากในกล้องเอาค่ะว่ามุมไหนเป็นมุมที่ดีที่สุดของตัวเอง” แอลลี่บอกว่าส่วนของร่างกายที่เธอชอบที่สุดคือ ‘ดวงตาและขา’ ไม่ใช่เพราะว่ามันสวย หากแต่เธอรู้สึกว่ามันดูเป็นเธอที่สุดแล้ว! และเมื่อถามถึงจุดที่รู้สึกไม่มั่นใจ คำตอบที่ได้คือ “โห หนูลิสต์ได้เยอะมากเลยค่ะ จมูก กราม หน้าผาก เกือบทั้งหน้าเลย!”
แอลลี่มีวิธีรับมือกับจุดด้อยของตัวเองอย่างไร
“จริงๆ ตอนแรกหนูไม่ได้รู้สึกเลยค่ะว่าตัวเองจะเป็นแบบไหน แต่ที่รู้สึก insecure ก็เพราะได้ไปเห็นคอมเมนต์ที่บางคนพูดถึงเรา แล้วหนูก็ดันเชื่อตามเขาไป คือตัวเองไม่ได้คิดแต่กลับไปกังวลว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร แล้วก็เอามันมามีผลกับความรู้สึกของตัวเอง ซึ่งจริงๆมันไม่ดีเท่าไรค่ะ เพราะ ‘everyone looks different for a reason, everyone has their own beauty’ และนี่มันคือตัวหนู ซึ่งหนูเปลี่ยนมันไม่ได้ เลยหันมาใช้ความเข้าใจกับเรื่องนี้แทนค่ะ”
มีวิธีรับมือกับคอมเมนต์ในแง่ลบต่างๆ แบบไหน
แต่ถ้าเกิดไปอ่านเจอแล้วรู้สึกเฟลมากๆ หนูก็มองตัวเองในกระจกแล้วบอกกับตัวเองว่า This is what you look like. You’re good-looking!! บอกซ้ำๆอยู่อย่างนั้นละค่ะ แล้วก็จะเริ่มกลับมามั่นใจขึ้น อีกหนึ่งกำลังใจที่ดีของแอลลี่คือคุณแม่ คุณแม่ก็พยายามให้ทำความเข้าใจค่ะ อย่างคอมเมนต์เรื่องหน้าตามันเป็นอะไรที่เราแก้ไขไม่ได้ แม่ก็จะบอกว่าคนเรามีความสวยในตัวที่ต่างกัน หน้าเราเป็นแบบนี้แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเราทำอะไรผิด คนที่ไม่ถูกใจก็อาจจะแค่ไม่ถูกโฉลกเท่านั้น ไปใส่ใจและปรับปรุงแก้ไขในเรื่องที่เราสามารถทำได้ดีกว่าค่ะ”
ทุกวันนี้รู้สึกขอบคุณคอมเมนต์ดีๆ ที่มีกลับมาค่ะ หนูพยายามจะให้ค่าและให้ความสนใจกับเรื่องดีๆ มากกว่า ทุกวันจะมีคนส่งคอมเมนต์มาให้กำลังใจ ซึ่งมันทำให้รู้สึกดีขึ้นมากเลยค่ะ และหนูว่าเวลาที่เราเจอหน้ากันมันจะเป็นอีกเลเวลหนึ่งค่ะ คนจะไม่รุนแรงเหมือนในโลกอินเทอร์เน็ต อย่างวิธีที่จะบอกว่าเราทำแบบนี้ไม่โอเคนะ หรือการบูลลี่กันมันจะน้อยกว่า หนูเลยรู้สึกว่าการเจอกันแบบ face to face มันคือเรื่องที่ดีนะคะ เพราะเราจะรู้ว่าอะไรที่เราควรหรือไม่ควรพูด