ความรู้สึกยังคงตราตรึงเมื่อย้อนนึกถึงครั้งที่ได้มีโอกาสปล่อยกายใช้ชีวิตแสนหอมหวาน ณ เมืองชายฝั่ง Portofino ประเทศอิตาลี แม้จะไม่นานมานี้ แต่ที่นั่นสร้างความประทับใจให้เป็นอย่างมาก ไม่เฉพาะแค่ทะเลเมดิเตอร์เนียนสีเทอร์ควอยซ์ และตัวเมืองสี Skittles ซึ่งเป็นอินสตาแกรมสปอตในตำนาน แต่รวมไปถึงประสบการณ์การอยู่โรงแรมที่สมบูรณ์แบบที่สุด ที่ Belmond Hotel Splendido

Terrace Grace
Belmond Hotel Splendido อยู่บนเนินเขาเหนือหมู่บ้านตกปลาของเมือง Portofino เป็นโรงแรมที่ให้บริการเหล่าบรรดา crème de la crème ทั่วโลกมาตั้งแต่ปี 1901 ซึ่งไม่น่าแปลกใจ เพราะด้วยฟาซาด (Facade) ที่เป็นแบบสวนริมระเบียง เปิดมุมมองให้ผู้เข้าอาศัยได้เห็นกับวิวทิวเขาและทะเลที่สวยจนแทบจะหยุดหายใจ เสน่ห์เรียบง่ายแบบชนบทนี้เองที่ดึงดูดให้เหล่าคนในวงการต่างหาโอกาสมาพักตากอากาศที่โรงแรมในฝันแห่งนี้ให้ได้ครั้งหนึ่งในชีวิต


โครงสร้างภายในของโรงแรมมีกลิ่นอายแบบเรโทรแกลม คือความหรูหราทว่าอบอุ่นและเป็นมิตรจากเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งภายในเก่าเก็บที่ผสมผสานไปกับสีทองจางๆ จากพรมเปอร์เชียนและพื้นไม้สีอ่อนได้อย่างลงตัว สำหรับตัวห้อง ถึงแม้ว่าจะได้รับการออกแบบจากสถาปนิกคนเดียวกัน แต่ด้วยรายละเอียดบางอย่างที่ทางสถาปนิกใส่เข้าไปในแต่ละห้องโดยหยิบเอาประวัติศาสตร์ของเมือง Portofino มาเป็นแรงบันดาลใจ จึงสร้างคาแรกเตอร์ให้แต่ละห้องได้อย่างน่าประทับใจ โดยเฉพาะในช่วงกลางวันที่เมื่อแสงแดดสาดสะท้อนกับน้ำทะเลแล้วหักเหเข้ามาในห้องจนสร้างเป็นแสงสะท้อนสีเทอร์ควอยซ์ที่เคลื่อนไหวไปทั่วห้อง นับเป็นช่วงเวลาต้องมนต์ที่ยากจะอธิบาย

La Dolce Vita
สำหรับกิจกรรมที่ Belmond Hotel Splendido คือความหมายของประโยคที่ว่า La Dolce Vita อย่างแท้จริง “ชีวิตแสนหอมหวาน” ตามแบบฉบับอิตาลีคือการให้คุณค่ากับชีวิตที่รายล้อมด้วยความงาม ความสุขและอาหารแสนอร่อย ซึ่งที่ Belmond Hotel Splendido มีทางเลือกให้พร้อม ตั้งแต่ขับเวสป้าชมความงดงามของธรรมชาติของวิวชนบทและจบวันด้วยดินเนอร์บนครูซกับวิวพระอาทิตย์ตกดิน หรือจะลอยคอในสระว่ายน้ำพร้อมค็อกเทลซิกเนเจอร์พิซซ่าเนเปิ้ลแท้ตลอดวัน


ประสบการณ์ที่ Belmond Hotel Splendido ทำให้เข้าใจชีวิตแบบ La Dolce Vita ได้ถึงแก่นแท้ เอาเป็นว่าถ้าหากได้มีโอกาสมาที่นี่ จงโอบกอดความเกียจคร้านของตนเอง และดื่มด่ำไปกับปัจจุบันตรงหน้าให้ได้มากที่สุด เท่านี้ก็พอ

Story: Taylor Srirat