เคยไหม? ทำสีผมมาไม่ทันไรสีก็หลุดไว โดยเฉพาะสีแฟชั่น ยิ่งสระก็เหมือนยิ่งได้สีใหม่เพี้ยนไปเรื่อยๆ เราลองมาดู 7 ทิปส์นี้กัน รับรองว่าช่วยให้สีผมติดทนนานแถมยังนุ่มสลวยขึ้นอีกด้วย
น้ำร้อนหรือน้ำอุ่นจัดเป็นตัวการที่ทำให้เกล็ดผมเปิด เมื่อเกล็ดผมถูกเปิดแล้วเจอการชะล้างด้วยแชมพู สีผมจะค่อยๆ หลุดออกไปทีละน้อยตามจำนวนครั้งที่สระ ดังนั้นแนะนำให้สระด้วยน้ำอุณหภูมิห้องหรือน้ำเย็นแทน เพื่อให้เกล็ดผมปิดล็อคสีไว้ได้นาน
ส่วนคนที่ติดการอาบน้ำอุ่นหรือน้ำร้อนเป็นประจำก็ไม่ต้องเป็นกังวลใจ 2 วิธีนี้ช่วยได้
1. ก้มหัวสระผมในแนวดิ่ง หรือ สระผมในซิงค์ - วิธีนี้อาจจะฟังดูลำบาก แต่เป็นวิธีที่ช่วยเซฟตัวเองจากความเยือกเย็นของน้ำได้ แล้วยังช่วยถนอมเส้นผมได้อีกด้วย
2. สระด้วยน้ำอุ่นแล้วปิดท้ายด้วยน้ำเย็น - คนที่หลีกเลี่ยงน้ำอุ่นไม่ได้จริงๆ แนะนำให้เปิดน้ำอุ่นในอุณหภูมิที่ต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ สระผมให้เรียบร้อย แล้วตามด้วยน้ำเย็นในขั้นตอนสุดท้ายเพื่อปิดเกล็ดผม
ทุกครั้งที่ย้อมสีผม เรามักจะสัมผัสถึงสภาพผมที่แห้งกรอบยิ่งขึ้น ทั้งนี้ก็เพราะสารเคมีในผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมนั้นมีผลต่อระดับเคราติน หรือ โปรตีนในเส้นผมของเรานั่นเอง เมื่อโปรตีนในเส้นผมลดลง สิ่งที่ตามมาคือผมที่อ่อนแอ ไร้น้ำหนัก ขาดความยืดหยุ่น และไม่เงางาม ดังนั้นควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเคราตินเพื่อเติมเต็มโครงสร้างเส้นผมให้กลับมาแข็งแรงยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแชมพู คอนดิชันเนอร์ ทรีตเมนต์ ตลอดจนผลิตภัณฑ์บำรุงผมต่างๆ
ใครที่เป็นสาวกผมสีแฟชั่นจัดๆ คงต้องเจอกับปัญหาสีผมหลุดเร็วกว่าคนย้อมผมสีธรรมชาติแน่นอน สังเกตง่ายๆ คนที่ย้อมผมสีอ่อนอย่างแอช บลอนด์ เทา เงิน หรือประกายเขียว มักจะผิดเพี้ยนกลายเป็นสีทองปนส้มหลังการสระไม่กี่ครั้ง ทั้งนี้เพราะเม็ดสีผมของคนเอเชียมักจะมีสีส้ม แดงแฝงอยู่
วิธีแก้คือให้ใช้แชมพูเฉพาะทางอย่าง "โทนนิ่งแชมพู" แทนแชมพูธรรมดาทั่วไป
ลักษณะเนื้อของแชมพูประเภทนี้จะมีอยู่สองสีหลักๆ คือ เนื้อสีม่วง และ น้ำเงินเข้ม เมื่อเราใช้แชมพูประเภทนี้สระแล้ว เม็ดสี (Pigment) ที่อยู่ในแชมพูก็จะแทรกซึมเข้าไปอยู่ในเส้นผมแล้วทำหน้าที่ยับยั้งเม็ดสีตามธรรมชาติของเรา
หลักการง่ายๆ ในการยับยั้งเม็ดสีผมคือการอิงจากคู่สีตรงข้ามในทฤษฏีสีหรือ Color Wheel ที่เราเคยพบเจอในวิชาศิลปะ เช่น ผมที่กำลังเฟดเป็นสีเหลืองทอง จะต้องยับยั้งเม็ดสีด้วยแชมพูสีม่วง ส่วนผมที่เริ่มเฟดเป็นสีส้ม ต้องยับยั้งเม็ดสีด้วยแชมพูสีน้ำเงิน เป็นต้น
ใครที่ฟอกสีผมควรเลือกคอนดิชันเนอร์หรือทรีตเมนต์เป็นประเภทโทนนิ่งเช่นกัน ส่วนคนที่ทำสีธรรมชาติก็สามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผมทำสีทั่วไปได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ความถี่ในการใช้ก็มีผลต่อความติดทนของสีด้วย
Editor's Tips: ข้ามขั้นตอนครีมนวดเพื่อป้องกันการชะล้างของสีให้มากที่สุด แล้วใช้ทรีตเมนต์บำรุงผม ประมาณ 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์แทน
ใครที่ไม่ได้สระผมทุกวันอยู่แล้วคงไม่น่ามีปัญหา แต่คนที่ติดสระผมจริงๆ แนะนำให้ลองใช้ตัวช่วยอย่าง Dry Shampoo แทน ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยถนอมสีผมได้ดีเลยทีเดียว
สำหรับใครที่ทำสีผมมาใหม่ แนะนำให้เลี่ยงทะเลหรือสระว่ายน้ำทุกกรณี ถ้าไม่อยากให้สีผมหลุดไว เพราะตัวน้ำทะเลหรือคลอรีนจะเป็นตัวชะล้างสีผมชั้นดี เรียกได้ว่าเห็นความแตกต่างก่อน-หลังลงน้ำได้เลย ส่วนคนที่ทำสีผมมาสักพักแล้วจำเป็นต้องลงน้ำจริงๆ แนะนำให้ใช้น้ำมันมะพร้าวชะโลมผมเยอะๆ เพื่อเคลือบปิดเกล็ดผม วิธีนี้จะเป็นการช่วยปกป้องสีผมได้ระดับหนึ่ง อาจจะปกป้องไม่ได้ 100% แต่ดีกว่าปล่อยให้ผมรับการชะล้างเต็มๆ แน่นอน
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมตามสภาพผมและความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นชนิดสำหรับผมทำสี ผมแห้งเสีย ผมชี้ฟู เป็นต้น หลังจากสระผมแล้ว ซับผมให้เปียกหมาดๆ แล้วตามด้วยเซรั่มลงบริเวณปลายผม ควรใช้เป็นประจำเพื่อผมที่สวย เงางาม ไม่เปราะขาดง่าย เป็นต้น หลังจากสระผมแล้ว ซับผมให้เปียกหมาดๆ แล้วตามด้วยเซรั่มลงบริเวณปลายผม ควรใช้เป็นประจำเพื่อผมที่สวย เงางาม ไม่เปราะขาดง่าย
Cover Photo Courtesy: roses_are_rosie, official_g_i_dle, jiminxjamie, rosiehw