หากพูดถึงนาฬิกาคุณภาพดี หลายๆ คนต้องนึกถึงคำว่า SWISS MADE อย่างแน่นอน เพราะถือเป็นการการันตรีคุณภาพนาฬิกาที่ผลิตในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดแบรนด์นาฬิการะดับโลกที่เป็นที่ยอมรับมากมายหลายแบรนด์ และ “Longines” เองก็คือหนึ่งฝนแบรนด์สัญชาติสวิสที่เลื่องชื่อและนับเป็นแบรนด์นาฬิกาที่เก่าแก่ที่สุดลำดับที่ 4 ของโลกอีกด้วย ด้วยจุดยืนในความเป็นนาฬิกาสัญชาติสวิสที่มีดีไซน์สง่างาม พร้อมประสิทธิภาพของการทำงานอันเป็นเลิศ และอยู่ในช่วงราคาที่เข้าถึงสำหรับทุกเจเนอเรชั่น ทำให้ Longines กลายเป็นแบรนด์นาฬิกาที่ทุกคนนึกถึงเป็นอันดับแรกๆ โดยวันนี้แอลจะพามาแนะนำนาฬิการุ่นคลาสสิกที่เป็น Best Seller ทั้ง 9 เรือน ของ Longines เผื่อสำหรับใครที่ตัดสินใจเลือกไม่ถูก ก็สามารถตามมาเก็บข้อมูลไว้ตัดสินใจกันได้เลย
เรือนเวลาที่มาพร้อมกับเรื่องเล่าอย่าง Longines Heritage Military 1938 ได้รับแรงบันดาลใจมาจากนาฬิกาทหารจากยุคสมัยสงคราม โดยนำมาผสมผสานดีไซน์สุดคลาสสิกโดยพร้อมกลไกไขลานที่มีความคล้ายคลึงกับนาฬิกาจากยุค 1930 หน้าปัดนาฬิกาสีดำควาสสิกเรียบหรูพร้อมตัวเรือนสตีลขนาด 43 มม.และเข็มนาฬิกาแบบ Baton และตัวเลขอารบิกสีครีม 11 ดีไซน์หน้าปัดประกอบไปด้วยวงกลมบอกวินาทีเล็กๆ ที่เสริมด้วยขอบหน้าปัดแบบ railway-track โดยมาพร้อมสายหนังนาโตพร้อมอุปกรณ์การเปลี่ยนสาย และความพิเศษคือรุ่นนี้ผลิตเพียง 1,938 เรือนเท่านั้น เรียกว่าเป็นอีกรุ่นที่พิเศษและน่าครอบครองสุดๆ
Longines Hydro Conquest คือตัวอย่างของนาฬิกาที่ได้แรงบันดาลใจมาจากกีฬาทางน้ำ และมีคุณสมบัติทั้ง 3 ประการนั่นก็คือ คุณสมบัติของกลไกที่มีประสิทธิภาพ ดีไซน์สวยงาม และช่วยเสริมบุคลิกของผู้สวมใส่ เมื่อผนวกเข้ากับเรื่องของราคาที่ไม่สูงเกินไป จึงสามารถเจาะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าทุกเจเนอเรชั่น และถึงแม้ว่าจะเป็นนาฬิกาสปอร์ต แต่ก็สามารถนำมาสวมใส่ได้ในชีวิตประจำวัน นับว่าเป็นนาฬิกาที่ใส่ติดข้อมือได้ในทุกๆ วัน โดย Longines Hydro Conquest มากับหน้าปัด 43 มม. ตัวเรือนแสตนเลสสตีลและเซรามิก มาพร้อมกระจกแซปไพร์ป้องกันรอยขีดข่วนพร้อมเคลือบปกกันการสะท้อนแสงหลายเลเยอร์ทั้งสองด้าน ส่วนเเม็ดมะยมเป็นแบบ Screw-in และขอบหน้าปัดแบบหมุนได้
The Longines Avigation Watch Type A-7 1935 มากับหน้าปัดพิเศษขนาด 41 มม. ด้วยลักษณะเอียง 40 องศา พร้อมกับกลไกไขลานอัติโนมัติที่จะแกว่งด้วยความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง และกำลังลานสำรองสูงสุด 54 ชั่วโมง ในส่วนของตัวเรือนจะเป็นแสตนเลสสตีล พร้อมกระจกแซปไพร์ป้องกันรอยขีดข่วนพร้อมเคลือบปกกันการสะท้อนแสงหลายเลเยอร์ข้างใต้ และเพิ่มความหรูหราด้วยสายหนังจระเข้สีน้ำตาลคลาสสิก
Longines ยังมีความโดดเด่นในเรื่องของการผลิตนาฬิกาสำหรับผู้หญิงเช่นกัน อย่างนาฬิกาในกลุ่ม Longines Eleganceซึ่งได้ถูกรังสรรค์ขึ้นมาเพื่อเอาใจผู้หญิงที่ชื่นชอบนาฬิกาหรูร่วมสมัยมีดีไซน์คลาสสิกและ Timeless ทำให้สามารถหยิบมาใส่ได้ทุกยุคสมัย อย่างเช่น Longines PrimaLuna กับนาฬิกาหรูหน้าปัดทรงกลมขนาด 34 มม. ฝังเพชร 11 เม็ด Top Wesselton VS-SI รวม 0.044 กะรัต และยังเพิ่มความพิเศษด้วยหน้าปัดไข่มุกสีขาว พร้อมเข็มสีน้ำเงินสุดโดดเด่น โดย Longines PrimaLuna มาในตัวเรือนแสตนเลสสตีลพร้อมกระจกแซปไพร์ป้องกันรอยขีดข่วนพร้อมเคลือบปกกันการสะท้อนแสงหลายเลเยอร์ข้างใต้ เรียกว่าเป็นนาฬิกาสำหรับผู้หญิงที่มีความหรูหราคลาสสิก และราคาเข้าถึงได้ตอบโจทย์ผู้หญิงรุ่นใหม่
มาต่อกันที่นาฬิกาของผู้หญิงกับรุ่นสุดหรูอย่าง Longines DolceVita ที่มาในหน้าปัดสี่เหลี่ยมดีไซน์สุดคลาสสิก พร้อมตัวเรือนประดับเพชรทั้งหมด 46 เม็ด Top Wesselton IF-VVS รวมน้ำหนัก 0.386 กะรัต โดย Longines DolceVita ถือเป็นรุ่นคลาสสิกสำหรับผู้หญิงที่รุ่นขายดีของแบรนด์ตลอดกาล ด้วยขนาดพอดีกับข้อมือและดีไซน์เรียบหรูเหนือกาลเวลา พร้อมทั้งความโดดเด่นที่ผู้สวมใส่ได้สะท้อนตัวตนของตัวเองผ่านนาฬิกา จึงถือเป็นอีกรุ่นของ Longines ที่สาวแฟควรมี
อีกหนึ่งความคลาสสิกจาก Longines กับนาฬิการุ่น Longines Conquest Heritage ที่มาพร้อมดีไซน์เหนือกาลเวลากับหน้าปัดขนาด 40 มม. ตัวเรือนแสตยเลสสตีล พร้อมดีไซน์สุดหรูที่มาในหน้าปัดสีดำเงา และเข็มสีโรสโกลด์ และเพิ่มความหรูหราด้วยสายหนังจระเข้สีดำคลาสสิก นับเป็นรุ่นคลาสสิกที่ใส่ง่ายเข้าได้กับทุกชุด
สำหรับสายสปอร์ตที่ชอบในความแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร รวมถึงมีความเป็นตัวของตัวเองสูง Longines Sport ถือว่าตอบโจทย์ได้ครบทุกด้าน ด้วยวัสดุที่เหมาะกับแอคทิวิตี้หลากหลาย รวมถึงดีไซน์ที่โดดเด่นและมีความร่วมสมัย อีกทั้งยังสามาถเปลี่ยนสายได้สองแบบ เหมาะสำหรับคนแฟที่ต้องการความหลากหลายได้เป็นอย่างดี
ส่วนใครที่ชื่นชอบความเนี้ยบเรียบหรู The Longines Master Collection ถือเป็นอีกรุ่นที่ตอบโจทย์ โดย The Longines Master Collection อยู่ในกลุ่มของ Longines Watch Making Tradition ที่เน้นฟังก์ชั่นการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพและใช้กลไกไขลานอัตโนมัติ ทั้งยังมีคุณสมบัติโดดเด่นที่ต่างกันในแต่ละรุ่น สะท้อนให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญในการผลิตนาฬิกาของแบรนด์ รวมถึงการกล้าที่จะผสมผสานนวัตกรรมใหม่ๆ
สำหรับคอลเล็กชั่น Longines Heritage เป็นการนำนาฬิกาเรือนดังในอดีตกลับมาตีความใหม่ด้วยดีไซน์ที่ร่วมสมัยมากขึ้น รวมถึงมีการเพิ่มประสิทธิภาพและเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้มีความทันสมัยมากขึ้น ทำให้เราได้รับความสวยคลาสสิกในแบบฉบับของแบรนด์ผสมผสานกับดีไซน์ใหม่ๆ ในเรือนเวลาได้อย่างลงตัว และสำหรับใครที่ชื่นชอบในเรื่องราวความเป็นมาและชอบในดีไซน์รุ่นคลาสสิก คอลเล็กชั่น Longines Heritage ถือเป็นเรือนเวลาที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คุณได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้สาวก Longines สามารถเป็นเจ้าของ นาฬิกาลองจินส์รุ่น Best-Seller เหล่านี้ได้ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป หรือทางออนไลน์ที่ Longines Official Store @Lazada สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.longines.co.th