หวาย กามิกาเซ่ หรือชื่อที่มีแต่ครอบครัวรู้จักว่า ปัญญริสา เธียรประสิทธิ์ ผู้หญิงที่โดนวิพากษ์วิจารณ์ทุกสิ่งที่เป็นตัวเธอ ตั้งแต่คำว่าแรง ร้าย และอีกหลายคำที่มี ร. เรือ นำหน้า ถามว่าเธอแคร์ไหม ตอบให้ว่าวันนี้ไม่แคร์อะไรมาก แต่หวายไม่วายขออธิบายอย่างสุภาพว่า “ช่วยเข้าใจหน่อย ก็ชอบแบบนี้”
เมื่อถึงเวลาต้องเปลี่ยนนามสกุล ยกคำว่ากามิกาเซ่ออกเหลือเพียงชื่อหวาย เธอไม่ได้ลาออกจากค่าย แต่ว่าค่ายปิดตัวลง หากหวายเลือกเดินทางต่อกับดนตรีที่เธอชอบในฐานะศิลปินอิสระ “ตอนเราอยู่กับค่ายมีคนช่วยให้คำแนะนำและชี้ทาง ที่จริงอาจจะไม่ได้ชี้ด้วยซ้ำ เขาบอกมาเลยว่าเราต้องทำแบบนี้ๆ มีทาง 1 2 3 4 ให้เราเดินตาม ซึ่งมันก็ดี ทุกอย่างง่ายจังเลย มีคนดูแลให้หมด พอวันนี้ที่เราทำเพลงเองถึงได้รู้ว่ามันเหนื่อยมาก
“กามิกาเซ่ปูทางให้เรามีวันนี้” หวายกล่าวโดยสรุป “พอเป็นศิลปินอิสระ หวายอยากทำเพลงที่ไม่ได้ฟังตอนบอกเลิกหรือฟังในสถานการณ์รักเท่านั้นเหมือนเพลงไทยทั่วไป หวายอยากทำเพลงเกี่ยวกับด้านอื่นๆของชีวิตบ้าง อาจเป็นชีวิตการทำงานหรือความสัมพันธ์กับเพื่อน หวายอยากเล่าเรื่องตัวเองด้วยที่แต่ก่อนเราพยายามจะอยู่ในกรอบเพื่อให้เข้ากับคนอื่นได้ แต่เราก็โดนโจมตี โดนคนมาร้ายใส่อยู่ดี ความร้ายไม่ใช่ว่ามีคนทำร้าย แต่ในเซนส์ที่ว่าทำไมร้ายจัง เราอยากตีกลับไปด้วยแอตติจูดที่ว่า ต่อให้วันนี้คุณร้ายกับเรา เราก็ไม่แคร์แล้ว” หวายยิ้มร้ายตบท้ายแต่พองาม
“แต่ก่อนที่หวายอยู่กามิกาเซ่คนยังฮิตคำว่าฟรุ้งฟริ้งกันอยู่เลย แต่วันนี้มันคือคำว่า fierce ต้องเป็นตัวแม่กันนะคะทุกคน หวายชอบคำนี้มาก ‘fierce’ มันให้พลังดี” หวายพูดถึงคำโปรดซึ่งเธอเลือกให้เป็นชื่อเพลงแรกหลังจากคัมแบ็กเป็นศิลปินอิสระ
ก่อนจะเล่าว่าโดนคนร้ายใส่มาโชกโชนแค่ไหนกว่าจะพูดว่า let it go ได้ง่ายๆในวันนี้ “เมื่อก่อนหวายโดนโจมตีหนักทุกเรื่องค่ะ ‘ทำไมพูดไม่ชัด ทำไมแต่งตัวแบบนี้’ ซึ่งสิ่งที่หวายทำเมื่อก่อนคือสิ่งที่ทุกคนทำกันในวันนี้ (ยิ้มอ่อน) เราเป็นตัวของเรามานานแล้ว แต่ก็เข้าใจนะว่าคนที่ว่าเราอาจจะกลัวความคิดเห็นของคนอื่น หรือเขาอาจจะไม่รู้ว่าเขาทำอย่างอื่นให้กับชีวิตตัวเองได้ วันนี้เทรนด์กำลังบอกว่าเราไม่ควรมีกรอบให้ตัวเอง หวายรู้สึกดีมากว่าเดี๋ยวนี้ศิลปิน ยูทูเบอร์ หรือบล็อกเกอร์ พยายามทำให้ทุกคนรู้สึกดีขึ้นกับตัวเอง ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่เราต้องเพอร์เฟ็กต์หรือรักษาภาพตลอดเวลา
“ตอนที่โดนโจมตีหนักๆหวายยังเด็กมากนะคะ อายุ 15 เอง ผู้ใหญ่เตือนตลอดว่าให้ปรับปรุงตัวเอง อย่าทำแบบนั้นแบบนี้ แต่เวลาเราอยู่กับพ่อแม่หรือเพื่อนสนิทมันไม่ได้ผิดเลยกับการที่เราเป็นตัวเอง แต่กลับกลายว่าพอเรามาทำงานในวงการ การที่หวายเป็นคนพูดตรงไปตรงมา เป็นคนเฮฮา แฮปปี้ คนบอกว่าเราผิด มาเตือนตลอดว่าให้เราเบาๆกว่านี้หน่อย ซึ่งมองกลับไปถ้าเขาไม่เตือนเราอาจมาไม่ถึงวันนี้ เราจะยังอยู่ในวงการนี้ได้หรือเปล่า” เธอนิ่งเงียบ คิดอะไรกับตัวเองพักหนึ่ง “ไม่รู้สินะ ถ้าเขาไม่มาพูดว่าเรา เราก็คงไม่มีปมเหมือนกัน”
ผู้หญิงที่โดนล้อเลียนว่าอ้วน เตี้ย ดำ ตอนเรียนโรงเรียนนานาชาติจนต้องแอบกินข้าวในห้องน้ำ และเมื่อทำงานที่เธอรักก็กลับโด่งดังเพราะโดนโจมตีเรื่องการแต่งตัว การพูดจา และรูปร่างหน้าตา ถึงขั้นเครียดจนชักคากองถ่าย เธอทบทวนความร้ายที่โดนใส่พานประทานมาให้โดยมิได้ร้องขอ แล้วพูดอย่างปลงๆว่า “หวายไม่เข้าใจอย่างเดียวคือเขาไม่รู้จักเราแล้วเขามาว่าเราได้ยังไง เราเฮิร์ตหนักมาก แต่ใครเอาความเจ็บปวดนี้ออกไปได้ก่อน ปล่อยวางได้ก่อน คนคนนั้นก็จะสบายใจก่อน แต่หวายเป็นคนเซนซิทีฟเลยวางได้ช้าหน่อย"
“หวายคิดมาตลอดว่าตัวเองธรรมดามากๆ ไม่ได้แรงเลย แต่ในไอจีคนก็ว่าเราตลอดเหมือนกันว่าแต่งตัวโป๊ ใส่บิกินี่ อาจจะเพราะหน้าอกไซซ์ใหญ่ เวลาใส่อะไรก็ดูโป๊ไปหมด ถ้าคนหน้าอกไซซ์เล็กกว่าใส่เสื้อผ้าแบบเดียวกับหวายเลย แต่ทุกคนโอเค ไม่เห็นมีใครว่าอะไร หวายเคารพความคิดเห็นของทุกคน แต่ก็อยากให้ทุกคนเข้าใจด้วยว่าก็หวายชอบแบบนี้ (หัวเราะ) แล้วเราก็อยู่ทะเลนะ ไม่ได้ใส่ไปที่อื่น การแต่งตัวหรือการแสดงออกของหวายมีคำว่ากาลเทศะอยู่ด้วยเสมอ แต่คนที่ว่าเราเขาว่าเราทุกสถานการณ์”
เธอบอกว่ามีไอจีหลุม ส่วนไอจีที่คนเห็นโดยทั่วกันและมีคนติดตามอยู่เกือบล้านนั้นเป็นผลลัพธ์ที่ผ่านการคัดกรองแล้ว “งานของหวายคือนักร้อง เป็นศิลปิน มันต้องร้องเพลงก็จริงแต่เราก็ต้องโพสต์อินสตาแกรมด้วย ซึ่งหวายโพสต์น้อยมากสำหรับคนทำอาชีพนี้ ทุกวันนี้หวายไม่รู้แล้วว่าจะโพสต์อะไรได้จนเราขี้เกียจจะลงรูปอะไรทั้งนั้นแล้ว โพสต์ดีแค่ไหนก็โดนว่าอยู่ดี ก็เลยคิดนานมากว่าจะลงดีไม่ลงดี แต่หลังๆในคอมเมนต์หวายเห็นคนให้กำลังใจเราเยอะ เขาเห็นเรามานาน รู้ว่าเราเป็นยังไง ถ้ามีแต่คนว่าเราเหมือนเมื่อก่อนเราคงหมดกำลังใจ” เธอบอกก่อนลุกกล่าวลา “หวายคงไม่มานั่งอยู่ตรงนี้แล้ว”
เรื่อง: สุภักดิภา พูลทรัพย์
Photo: Akkapon Kampusan
Stylist: Slalee
Assistant Style: เสกสิทธิ์ หนูอินทร์
Make-up: ถิรวัฒน์ ใจธรรม
Hair: อัครชัย ดีดพิณ