The Ultimate In-Flight Beauty
เริ่มต้นออกเดินทางท่องโลกกันอีกครั้งโดยไม่ต้องนั่งจินตนาการถึงนิวยอร์ก มิลาน หรือปารีส จากรีวิวเก่าๆ ถึงเวลาลุยหาความสุข ความสนุก และประสบการณ์ใหม่ๆ และแน่นอนต้องสวยตลอดไฟลต์ทั้งไปและกลับ แอลรวบรวมทิปส์ความงามยามท่องเที่ยวที่หลายคนอาจจะลืมไปบ้างหลังห่างหายการเดินทางไปนาน อะไรที่ต้องพกไว้ อะไรที่ต้องมีติดตัว และเคล็ดลับที่ทำให้ทั้งผิวพรรณ ร่างกาย และจิตใจ สวยเปล่งประกายไปจนถึงจุดหมายปลายทาง bon voyage!

อย่าให้ร่างกายขาดน้ำ
โซฟี แอร์โฮสเตสสาวจากสายการบิน La Compagnie ยืนยันทฤษฎีนี้ว่า “แพทย์ที่ดูแลสุขภาพของคนร่วมอาชีพของฉันแนะนำว่าเราควรดื่มน้ำทุกๆ 4 ชั่วโมง หรือจะดื่มน้ำเปล่าใส่แอปเปิ้ลฝานลงไปด้วยก็ได้” และถ้าเป็นไปได้ให้หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงแชมเปญที่เห็นแล้วเปรี้ยวปากอยากชื่นใจที่เสิร์ฟบนไฟลต์นั่นด้วย เพราะจะยิ่งทำให้ร่างกายขาดน้ำเข้าไปอีก รวมทั้งน้ำอัดลมด้วยเช่นกัน หากต้องการเครื่องดื่มที่ชื่นใจ ลองหันมาดื่มน้ำสมุนไพรอย่างไทม์ โรสแมรี่ หรือเลมอนแทน ถึงแม้จะไม่รู้สึกกระหายน้ำก็ควรต้องดื่มน้ำเย็นหรือน้ำดื่มอุณหภูมิห้องอยู่เสมอๆ

อย่าให้ผิวเราขาดน้ำด้วยเช่นกัน
“อากาศแห้งๆ นี่ละคือศัตรูตัวฉกาจเวลาเราอยู่บนเครื่องบิน เพราะจะทำให้ผิวของเราแห้ง รูขุมขนกว้างขึ้น และผิวมีน้ำมันมากขึ้น” Hélène Salat Baroux ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Caudalíe กล่าว “ระดับความชื้นในห้องโดยสารบนเครื่องบินอยู่ที่ 5% เพียงเท่านั้น แรงดันอากาศเหนือพื้นดินราว 6,000-8,000 ฟุต โลหิตของเราจะรับออกซิเจนได้น้อยลงเมื่ออยู่ในระดับความสูงกว่าน้ำทะเลขนาดนั้น” เริ่มฟังดูน่ากลัวใช่ไหมล่ะ หาวิธีรับมือได้แก่
สปาผิวหน้าแบบเบาๆ บางสายการบินจะมีบริการแจกผ้าอุ่นขณะบอร์ดิ้ง หรือก่อนมื้ออาหาร นำผ้าอุ่นมาประคบเพื่อให้ผิวได้ผ่อนคลาย พร้อมทั้งเปิดรูขุมขนเพื่อขับของเสีย และทำให้ผิวดูดซึมสารบำรุงจากเซรั่มและมอยส์เจอไรเซอร์ได้ดียิ่งขึ้น
ลบเมกอัพบ้างก็ได้ ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ช่วยทำความสะอาดและเติมความชุ่มชื่นให้กับผิวในคราวเดียว

ลอง: Embryolisse

เติมความสดชื่นให้ผิว ด้วยมิสต์ที่หอมสดชื่น พร้อมเติมความชุ่มชื่นให้ผิวในทันที และยังล็อกน้ำหล่อเลี้ยงผิวได้เนิ่นนาน ไม่อย่างนั้น อากาศแห้งๆ บนเครื่องบินจะทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื่นไป
ลอง: Cactus Mist จาก Kiehl’s

โบกมอยส์เจอร์ ให้เยอะเข้าไว้ และอย่าลืมบำรุงเรียวปากให้ชุ่มชื่นด้วยเช่นกัน!
ลอง: Face-Lifting Moisturizer จาก Caudalíe และ Hydragenist Nutri-plumping Lip Balm จาก Lierac


ELLE TIPS
– ผลัดเซลล์เมื่อเครื่องแลนด์ผิวแห้งมักเกิดการสะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้วกองอยู่บนชั้นผิวได้มาก ซึ่งจะทำให้ผิวเกิดน้ำมันและแบคทีเรียคั่งอยู่ใต้ผิว ส่งผลทำให้ผิวเกิดสิวอักเสบในวันสองวันต่อมา
ลอง: Dior Prestige, Le Sucre de Gommage จาก Dior

– เติมความชุ่มชื่นเมื่อเครื่องแลนด์ ด้วยการมาสก์ผิวเพื่อเร่งซ่อมแซมผิวอย่างเร่งด่วน ช่วยให้ผิวเปล่งปลั่ง สดชื่นขึ้นอีกครั้ง
ลอง: Abeille Royale Honey Cataplasm Mask จาก Guerlain

ของว่างไม่ว่างเว้น
ลองสังเกตดูถุงแครกเกอร์บวมบ้างแฟ้บบ้างแล้วจะเข้าใจถึงผลข้างเคียงที่เครื่องบินส่งถึงร่างกายเรา
ก่อนเครื่องจากออก ลดและเลี่ยงการบริโภคเกลือที่ทำให้เกิดการบวมน้ำ อย่างที่ Aliza Jabès ประธานแห่ง Nuxe Group ยึดถือมาโดยตลอด นั่นคือการกิน
“อาหารเช้าที่เปี่ยมด้วยวิตามิน เมล็ดธัญพืชต่างๆ ซีเรียล ผลไม้หรือเมล็ดเจีย”
“ซื้อผลไม้แห้งติดกระเป๋าไว้จะช่วยให้พอยับยั้งการหยิบแผ่นมันฝรั่งทอดและของว่างเค็มๆ เข้าปากได้ดี”
“งดดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเดินทางสัก 1 วัน และเลี่ยงการรับประทานอาหารมันๆ แล้วแทนที่ด้วยผักและผลไม้สดแทน”

ระหว่างไฟลต์ ขึ้นอยู่กับสายการบินด้วย บางสายการบินก็ทำอาหารปรุงสดใหม่ให้ อย่างสายการบิน La Compagnie เรียกว่าทุ่มเททำอาหารสไตล์บิสโทรร่วมสมัยเพื่อนำมาเสิร์ฟเป็นมื้อเที่ยงให้ผู้โดยสารกันเลยทีเดียว แน่นอนว่าเชฟต้องระดับตัวท็อปอย่าง David Toutain, Frederic Duca, Florent Ladeyn รวมถึงเชฟขนมอย่าง Yann Couvreur หากเป็นไฟลต์ดึก ของว่างเบาๆ จะช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น หรือไม่อย่างนั้นก็เอาอย่างนางแบบสาว Ilona Smet ที่ทำตามคำแนะนำของคุณแม่ซูเปอร์โมเดล Estelle Lefébure ว่ากินแค่แอปเปิ้ลผลเดียวก็พอ
รู้หรือไม่?
จากการศึกษาของสถาบัน Fraunhofer เกี่ยวกับความดันและความชื้นที่แตกต่างไปจากระดับที่เราคุ้นชิน ทำให้เรารับรสอาหารได้ลดลงถึง 30% ด้วยระดับอัลติจูด 8,000 เมตร และความดันภายในห้องโดยสารทำให้ออกซิเจนในเลือดของเราลดต่ำลง การรับกลิ่นและรสของเราจึงทำงานได้น้อยลง การได้ยินที่แย่ลงส่งผลต่อการรับรสของเราด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะรสหวานและรสเค็ม ดังนั้นเราจึงรู้สึกต้องการของหวานหรืออาหารรสเค็มมากขึ้นขณะอยู่บนไฟลต์ ดังนั้นก็เลือกให้ดี อย่างเช่น น้ำมะเขือเทศแทน เป็นต้น

ห่วงผมบ้างไหม?
ในขณะที่ตัวอาจจะบวมได้ง่ายและผมเรากลับลีบแบน นี่คือข้อเท็จจริงเลยละ ขนาดว่าลองดรายแบบฟาราห์ ทำผมพองสไตล์ Joan Collins ก่อนออกจากบ้านมาแล้ว แต่สภาพอากาศบนเครื่องบินมันไม่อำนวยต่อความนุ่มสลวยของเส้นผมเราจริงๆ ไหนจะความกดอากาศนั่นอีก
ทางแก้ไข: ลูบไล้มอยส์เจอไรเซอร์เพียงเล็กน้อยลงบนปลายผมก่อนออกจากบ้าน แล้วมัดผมมวยต่ำในช่วงที่อยู่บนไฟลต์ เครื่องแลนด์มาผมจะได้ไม่พาเฟล แต่ก็แนะนำให้รีบสระและใช้ครีมนวดตามด้วยนะ!
Try This!
ก่อนออกเดินทาง Abeille Royale Scalp & Hair Youth Oil in Serum จาก Guerlain

หลังกลับจากเดินทาง Nutritive Bain Satin Shampoo and Masquintense Masque จาก Kérastase

อุปกรณ์ยังชีพต้องครบ
แม้จะไม่ขนาดเปลี่ยนเครื่องบินเป็นสปา แต่ก็พอจะมีทางทำให้ไฟลต์มีความรื่นรมย์ขึ้นได้บ้าง บางสายการบินอาจมีชุดเดินทางแจกให้ แต่เพิ่มการบำรุงสักหน่อย อย่าลืมพกอาหารเสริมอย่างแมกนีเซียม วิตามินซี รวมถึงยาประจำตัวอย่างพาราเซตามอล ยาสีฟันแบบเคี้ยวเพิ่มเข้าไป เพื่อให้ชัวร์ว่าสิ่งที่ต้องใช้นั้นมีครบมือจริงๆ เมื่อต้องการ
ปรนนิบัติฝ่ามือ
คงไม่ถึงกับต้องนั่งทำเล็บขณะบินเพราะเห็นว่ามีเวลาเหลือแหล่ เราเองก็ไม่แนะนำให้ทำเช่นนั้น เพราะกลิ่นน้ำยาทาเล็บคงรบกวนคนอื่นไม่เบา เอาแค่ว่าพอให้ผ่อนคลายและได้รับการบำรุงบ้างก็พอ เช่น การใช้ไฮโดรแอลกอฮอล์ในการทำความสะอาด แล้วบำรุงด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ แนะนำให้ทำหลังจากที่อ่านแอลจบแล้วจะได้เพลินสุด
ลอง: Miss Dior Rose Purifying Hand Gel + Dior Prestige Hand Cream จาก Dior


Elle Beauty Story July 2022
ดำเนินงาน: Virginie Dolata
Beauty Editor: มัลลิกา บุญยืน
แปลและเรียบเรียง: พรประทาน ชัยกรโกศล
Model: Ilona Smet @ Karin Models
Make-up & Hair: Mickael Jauneau @ Agence Aurelien
Assistant Stylist: Romain Delattre
Photographer: Nik Hartley
Stylist: Barbara Loison